บล็อก เรื่องเล่า ตำนานเล่าขาน กีฬา และประวัติศาสตร์

Author: Don Jimenez (Page 4 of 7)

แนะ 3 เทคนิค ลดน้ำหนักแบบไม่ต้องอดอาหาร

แน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากที่จะอ้วน เพราะนอกจากจะทำให้หาเสื้อผ้าใส่ยากและมีความอึดอัดทางร่างกายแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพอีกด้วย แต่ทว่าปัจจัยแวดล้อมของแต่ละคนที่ส่งผลต่อน้ำหนักและไขมันที่เพิ่มขึ้น เช่น ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันไป เช่น ระบบเผาผลาญก็ทำงานได้ไม่เท่ากัน อีกทั้งส่วนสูงและรูปร่างก็ยังไม่เท่ากัน แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนคิดเหมือนกันนั่นคือ ทำอย่างไง​ก็ได้ให้สามารถลดน้ำหนักลงได้โดยไม่ต้องอดอาหาร เราจึงมี 3 เทคนิคในการลดน้ำหนักโดยไม่ต้องอดอาหารมาแนะนำกัน

เทคนิคที่ 1 ได้แก่ การเพิ่มปริมาณผักและผลไม้ในแต่ละมื้ออาหารให้มากขึ้น ทั้งนี้เพราะเส้นใยหรือไฟเบอร์ในผักและผลไม้จะช่วยกระตุ้นให้ขับถ่ายสะดวก ลดการดูดซึมของน้ำตาล ลดไขมันสะสม ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ทานได้ในปริมาณมากแต่ก็ไม่ทำให้อ้วน

เทคนิคที่ 2 หลีกเลี่ยงการกินอาหารจำพวกของทอดทั้งหลาย พึงระลึกเสมอว่าอาหารทอดต่าง ๆ ที่เรากินเข้าไปนั้นมีปริมาณน้ำมันแฝงอยู่ ยิ่งกินเยอะเท่าไรก็เหมือนกับการเทน้ำมันทอดอาหารลงในกระเพาะอาหารของเรานั่นเอง โดยน้ำมันเหล่านี้คือ ตัวการเพิ่มชั้นไขมันและน้ำหนักให้เกินพิดกัดอย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้นหากเปลี่ยนจากเมนูทอดมาเป็น ย่าง หรือต้ม ก็จะช่วยลดน้ำหนักลงได้อย่างน่าพอใจ หากยังเลิกทานของทอดไม่ได้​ ให้ลดปริมาณลง​ หรือใช้แผ่นซับน้ำมันเท่าที่ซับได้

เทคนิคที่ 3 การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ซึ่งแต่ละคนมีความต้องการปริมาณน้ำที่ไม่เท่ากัน โดยทั่วไปให้ดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว​ น้ำเป็นสิ่งจำเป็นต่อชีวิตของคุณ น้ำช่วยให้ระบบการไหลเวียนโลหิตและการดูดซึมสารอาหารทำได้ดีมากขึ้น ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกิน และยังส่งผลดีต่อระบบการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย นอกจากนี้การดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนการรับประทานอาหารในแต่ละมื้อ จะช่วยให้คุณอิ่มเร็วขึ้นด้วย
รู้ข้อดีจากเทคนิคการลดน้ำหนักทั้ง 3 วิธีแล้ว ก็อย่าลืมนำไปปฏิบัติให้เกิดผลดีต่อตัวคุณเองนะคะ และสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักคือ การนอนหลับให้เพียงพอในแต่ละวัน เพราะการที่ร่างกายได้นอนหลับสนิทในช่วงเวลาประมาณ 23.00 น.จนถึงเวลาประมาณ 03.00 น. ร่างกายจะหลั่ง Growth Hormone เพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของเซลล์และอวัยวะต่าง ๆ พร้อมทั้งเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย ทั้งยังช่วยให้ร่างกายกำจัดไขมันส่วนเกินออกไป​ ทำให้ร่างกายทำงานเป็นปกติ​ สามารถพัฒนาเซลล์ที่แข็งแรงเพื่อต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ได้

เคล็ดลับดูแลสุขภาพให้แข็งแรงตลอดปี

การมีสุขภาพดีตลอดทั้งปี นอกจากทำให้ร่างกายกระฉับกระเฉง และทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพตามไปด้วยแล้ว ยังช่วยให้มีจิตใจที่แจ่มใส มีพลังสมองที่สดชื่น พร้อมสำหรับการคิดริเริ่มงานใหม่ ๆ โดยเฉพาะในยุคที่ไวรัสโควิด-19 ระบาดก็ยิ่งจำเป็นต้องระมัดระวังสุขภาพยิ่งขึ้น เรามาดูกันว่าเคล็ดลับที่จะทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงตลอดปีมีอะไรบ้าง

1. เลือกรับประทานอาหารถูกหลักโภชนาการ
ในมื้ออาหารแต่ละวันนั้น ควรประกอบด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรตและผัก อย่างละ 1 ส่วน หากมีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน ก็ควรเลือกรับประทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน และควบคุมปริมาณความเค็มจากเกลือ น้ำปลา กะปิ ที่อยู่ในเมนูอาหารด้วย

2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายวันละ 30 นาที จะปรับระบบร่างกายให้หลั่งฮอร์โมนอย่างสมดุล ช่วยการเผาผลาญให้ดียิ่งขึ้น โดยสามารถเลือกกีฬาประเภทที่ถนัดได้มากมาย เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เต้นแอโรบิก กระโดดเชือก เล่นโยคะ ฯลฯ การออกกำลังกายยังมีประโยชน์ระยะยาว คือ ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง รวมถึงโรคมะเร็งบางชนิดได้ด้วย

3. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
ในแต่ละวันเราควรดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว เพราะน้ำเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ร่างกายขาดไม่ได้ ถูกใช้ในกระบวนการเผาผลาญและเกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาทางเคมีต่าง ๆ ภายในระบบร่างกายทุกส่วน หากขาดน้ำจะทำให้ร่างกายเสียสมดุลและทำให้เลือดข้นหนืด ส่งผลให้การไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ บกพร่อง การเผาผลาญลดน้อยลง และทำให้ผิวพรรณเป็นริ้วรอยง่าย ดูแก่กว่าวัย

4. พักผ่อนอย่างเพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนที่ดีนั้น เราควรหลับสนิทในช่วงเวลา 23:00 น. ถึง 02:00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ร่างกายหลั่งโกรทฮอร์โมนออกมา เพื่อซ่อมแซมร่างกายหลังจากทำงานมาอย่างหนักตลอดทั้งวัน หากนอนหลับได้สนิทจะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ โรคเครียด และโรคอ้วนได้อีกด้วย

5. มองโลกในแง่บวก
การมองโลกด้วยทัศนคติเชิงบวก จะช่วยให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุข ลดโอกาสเป็นโรคเครียด ซึมเศร้า วิตกกังวลได้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้พยายามอยู่ใกล้ชิดกับคนที่มองโลกในแง่บวก หรือคนที่หัวเราะง่าย ยิ้มง่าย เพื่อทำให้คุณรู้สึกสดใสเบิกบานกับทุกวันมากยิ่งขึ้น

การดูแลสุขภาพทั้งด้านร่างกาย จิตใจ ใส่ใจอาหาร ออกกำลังกายเป็นประจำ ฯลฯ ล้วนเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับทุกคน หากทำอย่างสม่ำเสมอจะเห็นผลที่ดี คือ มีคุณภาพชีวิตที่ดี ห่างไกลจากโรคต่าง ๆ ได้ตลอดทั้งปี อย่างไรก็ตาม ไม่ควรละเลยการตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลเป็นระยะ ทุก 6 เดือนถึง 1 ปี เพื่อคัดกรองโรคต่าง ๆ ตามวัยด้วย

เตือน 5 สิ่งห้ามทำใน Google Ads ถ้าไม่อยากถูกแบน

ปัจจุบัน ธุรกิจออนไลน์จำนวนมากมักทำการตลาดบน Google ด้วยการซื้อโฆษณาหรือที่เรียกว่า Google Ads ซึ่งเป็นการทำให้เว็บไซต์หรือร้านค้าออนไลน์ปรากฏในหน้าแรกของการค้นหาด้วยคีย์เวิร์ด อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ใช้งานอีกไม่น้อยที่เผลอลงโฆษณาที่ละเมิดข้อห้ามของ Google ซึ่งนอกจากจะทำให้การลงโฆษณาไม่ได้ผลตามที่ต้องการแล้ว ยังอาจทำให้ถูก Google ลดความน่าเชื่อถือในการจัดอันดับบนหน้าค้นหาอีกด้วย ซึ่ง 5 สิ่งที่ห้ามทำเมื่อลงโฆษณา Google Ads มีอะไรบ้างนั้น มาดูกันทีละข้อ ดังนี้

1. ห้ามลดทอนคุณค่าหรือ “บลัฟ” คู่แข่ง
พูดง่าย ๆ ว่าห้าม “ข่ม” คู่แข่งด้วยข้อความโฆษณา ห้ามบอกว่าสินค้าหรือบริการของคุณดีที่สุดในโลกหรือดีที่สุดในประเทศ รวมถึงห้ามบอกว่าสินค้าหรือบริการของคุณดีกว่าคู่แข่งตรง ๆ เช่น หากคุณขายครีมล้างหน้า ก็ห้ามโฆษณาว่า ครีมล้างหน้าของคุณดีกว่าแบรนด์ XXX หรือครีมล้างหน้าของคุณดีที่สุดในประเทศ XXX เพราะข้อความดังกล่าวไม่ใช่ข้อเท็จจริง แต่หากสินค้าของคุณได้รับรางวัลหรือมีผลการวิจัยต่าง ๆ รองรับก็สามารถแสดงในข้อความโฆษณาได้

2. ห้ามอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง
ตัวอย่าง เช่น หากคุณขายโลชั่นบำรุงผิว ข้อความโฆษณาที่คุณลงบน Google Ads ห้ามลงข้อความทำนอง “ผิวขาวภายใน 7 วัน” ถึงแม้ว่าผลิตภัณฑ์ของคุณจะดีจริง ทำให้ผิวขาวได้จริงภายใน 7 วัน คุณก็ต้องมีเอกสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือสถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือยืนยันกับทาง Google แต่หากเป็นเพียงคำยืนยันจากปากของคุณ Google ก็จะไม่รับฟังและปรับลดการมองเห็นโฆษณาของคุณนั่นเอง

3. ห้ามใส่เครื่องหมาย ! เกิน 1 ครั้ง
ถือเป็นเรื่องแปลกแต่จริง เพราะ Google ห้ามลงข้อความโฆษณาที่มีเครืองหมายตกใจหรือ ! มากกว่า 1 ครั้ง เช่น หากคุณจะลงข้อความว่า “โปรโมชันพิเศษ!!!” ระบบจะไม่อนุมัติ คุณทำได้เพียงลงข้อความว่า “โปรโมชันพิเศษ!” ระบบจึงจะอนุมัติการโฆษณา

4. ห้ามใส่ลูกเล่น “คลิกที่นี่”
สำหรับใครที่เคยชินกับการใช้เทคนิคใส่ข้อความสะกดจิตหรือ Call to Action อาจลำบากกันสักเล็กน้อย เพราะ Google ห้ามใส่คำว่า “คลิกที่นี่” บนข้อความโฆษณาเด็ดขาด แต่ถึงอย่างนั้นคุณก็สามารถเลี่ยงไปใช้คำอื่นที่ใกล้เคียงกันได้ เช่น ลงทะเบียนทันที, สมัครด่วน, รับสิทธิ์ทันที ฯลฯ

5. ห้ามพาดพิงชื่อแบรนด์อื่น ๆ
หากคุณต้องการจะสื่อว่าสินค้าหรือบริการของคุณเหนือกว่าแบรนด์คู่แข่งเจ้าอื่น ๆ จะไม่สามารถลงข้อความโฆษณาที่พาดพิงแบรนด์อื่น ๆ หรือแม้แต่มีชื่อแบรนด์อื่นปรากฎในโฆษณาของคุณได้ เช่น คุณไม่สามารถลงข้อความว่า “อาหารเสริมของเราดีกว่าแบรนด์ XXX” หรือ “โรงแรมของเราราคาถูกกว่าโรงแรม XXX” ได้ เพราะระบบจะไม่อนุมัติ แถมยังจะระงับโฆษณาของคุณอีกต่างหาก ดังนั้น คุณจึงทำได้แค่พูดถึงแบรนด์ของตัวเองเท่านั้น

แม้แต่ Google Ads ที่เราต้องจ่ายค่าโฆษณาให้ ก็ยังมีกฎและกติกาที่ต้องปฏิบัติตาม มิเช่นนั้นก็จะไม่ได้เข้าใช้งานโปรแกรมโฆษณาออนไลน์ที่ดีที่สุดแห่งยุคนี้ ดังนั้นหากต้องการใช้งานได้ตลอด ไม่ทำให้ธุรกิจต้องสะดุด ก็ทำตามแนวทางที่แนะนำและยึดหลักความตรงไปตรงมาจะดีที่สุด

5 นิสัยสร้างเสน่ห์ ให้น่าหลงใหลแบบไม่รู้ตัว

ทุกคนมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป บางคนไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำไป ว่าอะไรคือเสน่ห์ของตัวเอง มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มีคนชอบมาทักทายและพูดคุยกับตัวเองเต็มไปหมด ซึ่งการมีเสน่ห์นี้อยากให้ทุกคนเข้าใจก่อนว่า มันเป็นนามธรรมที่เกิดขึ้นจากรูปธรรมหรือตัวตนที่เราเป็น ไม่เกี่ยวกับเรื่องความสวย เพราะหลายคนที่สวยแต่เป็นคนไม่มีเสน่ห์ก็เยอะแยะไป ดังนั้นถ้าวันนี้คุณเป็นคนหนึ่งที่มีหน้าตาธรรมดาก็อย่าไปวอร์รี่เรื่องความสวยให้ปวดหัว หันมาสร้างเสน่ห์จากนิสัยใจคอของเราเองดีกว่า ของแบบนี้มันสร้างกันได้ มาดูกันว่านิสัยแบบไหนสร้างเสน่ห์ให้คุณได้บ้าง

ตลก อารมณ์ดี
เคยได้ยินประโยคคลาสสิกนี้ไหม “สวยมักนก ตลกมักได้” คำนี้ยังใช้ได้กับทุกความสัมพันธ์ ใคร ๆ เขาก็อยากอยู่กับคนที่อารมณ์ดี เพราะจะพาให้เขามีอารมณ์ดีตามไปด้วย ยิ่งถ้าใครที่มีนิสัยเป็นคนตลกโปกฮา อยู่ที่ไหนก็สร้างเสียงหัวเราะ สนุกสนาน ให้เพื่อนฝูงตลอด ๆ แบบนี้ถือเป็นเสน่ห์ที่ไม่ได้มีกันได้ง่าย ๆ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะสร้างมันขึ้นมา ถ้าคุณไม่ได้เป็นคนตลก ก็ไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเองให้เป็นคนตลกก็ได้ แค่ทำอารมณ์ตัวเองให้ดี ร่าเริง และสนุกร่วมไปกับเพื่อน ๆ เท่านี้ก็ช่วยสร้างเสน่ห์ให้คุณได้มากแล้ว

เป็นตัวของตัวเอง
เสน่ห์ข้อนี้ ถือเป็นเสน่ห์ที่ไม่มีใครสามารถลอกเลียนแบบจากเราไปได้ เพราะความเป็นตัวของตัวเองนั้นเป็นเรื่องเฉพาะตัว ทุกคนที่เกิดมาบนโลกมีความแตกต่างกันเหมือนลายนิ้วมือที่ไม่ซ้ำกัน การแสดงออกในความเป็นตัวเองจึงถือเป็นเสน่ห์ที่เรามีได้ง่าย ๆ เรียกได้ว่าแทบไม่ต้องสร้างอะไรขึ้นมาใหม่ด้วยซ้ำไป หากความเป็นตัวของตัวเองไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ก็แสดงความเป็นตัวเองออกมาเถอะ อย่าปิดกั้นความเป็นตัวเอง และอย่าเสแสร้งแสดงเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง โก๊ะ ๆ บ้าง สนุกบ้าง หลุดโลกบ้าง สุดท้ายมันก็เป็นตัวเราเอง ต่อให้ไม่มีใครชอบเรา อย่างน้อยก็ยังมีตัวเราเองที่ชอบตัวเราอยู่

ใช้เงินเป็น
การใช้เงินทุกบาททุกสตางค์อย่างคุ้มค่า ไม่ว่าเราจะหามาได้ด้วยตัวเราเองหรือมีใครให้เรามาก็ตาม มันก็สร้างเสน่ห์ให้เราได้แบบไม่รู้ตัวเช่นกัน การใช้เงินเป็น ไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายฟุ่มเฟือย นอกจากจะสร้างเสน่ห์ให้คุณแล้ว ยังทำให้คุณมีเงินเหลือไว้เก็บออม ทั้งยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับครอบครัวและคนที่คุณรัก ในเรื่องของวินัยการใช้เงินอีกด้วย

ใช้เวลาว่างไปกับงานอดิเรกที่ตัวเองหลงใหล
การมีงานอดิเรกที่เราชื่นชอบ และใช้เวลาไปกับสิ่งที่เราหลงใหล เป็นสิ่งที่มีเสน่ห์มาก ๆ เพราะพลังของการชื่นชอบสามารถส่งผ่านความรู้สึกของเราไปยังคนรอบข้างได้ ทำให้เรากลายเป็นคนที่น่าสนใจจากกิจกรรมที่เราทำ เช่น การวาดภาพ การถ่ายรูป การท่องเที่ยว การออกกำลังกาย หรือกิจกรรมใด ๆ ที่เราทำในช่วงเวลาว่างแล้วทำให้เกิดประโยชน์ และกิจกรรมเหล่านี้จะดึงดูดให้คนที่ชื่นชอบเหมือน ๆ กับเราเข้ามาหาเราเอง โดยที่เราไม่ต้องเรียกร้องความสนใจอะไรใด ๆ เลย เผลอ ๆ เราอาจสร้างรายได้จากสิ่งที่เราชื่นชอบได้อีกด้วย นี่จึงเป็นเสน่ห์ที่น่าหลงใหลอีกข้อที่ทุกคนสามารถสร้างขึ้นได้

ชอบหาความรู้ตลอดเวลา
การหาความรู้ใส่ตัวตลอดเวลา ทำให้เราเป็นคนทันสมัย ในสิ่งที่เป็นความรู้ใหม่ ๆ การเติมความรู้ให้ตัวเอง ทำให้คนอื่นรับรู้ได้ด้วยตัวเขาเองว่าคนคนนี้เป็นคนมีความรู้ มีของ จากการพูดคุยและสนทนาด้วย การหาความรู้ตลอดเวลานอกจากจะทำให้เรามีความรู้เพิ่มขึ้นแล้ว ยังทำให้เรารู้จักระวังภัยอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นในชีวิตประจำวันได้ ทำให้เราเอาตัวรอดได้ เสน่ห์นี้เกิดขึ้นได้จากความรู้ที่เรามีโดยไม่ต้องโอ้อวด เพราะความรู้ที่เรามีจะแสดงออกมาเองโดยอัตโนมัติ เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่จำเป็นต้องใช้

เสน่ห์เหล่านี้บางคนมีอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว แต่อาจจะมองไม่เห็น หรือไม่ได้ให้ความสนใจ ลองหันกลับมาสำรวจตัวเองดูว่าเราเองมีข้อดีจุดไหนบ้าง เพราะการรู้จักตัวเองจะทำให้เราเห็นเสน่ห์ของตัวเองและจะได้รู้ว่าควรปรับปรุงพัฒนาตนเองอย่างไรต่อไป

แนะนำ 5 ต้นไม้ยอดนิยมใช้ฟอกอากาศในห้องนอน

ต้นไม้คือเพื่อนที่แสนดีของมนุษย์และสัตว์ ทั้งยังเป็นที่พักอาศัยให้ร่มเงาแก่ของบรรดากระรอก นก หนู งู และแมลงนานาชนิด แต่คนเราก็ถูกปลูกฝังด้วยชุดความเชื่อที่ว่าต้นไม้ส่วนใหญ่ควรปลูกไว้นอกบ้านเพราะจะคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในเวลากลางคืน แต่ในความเป็นจริงยังมีต้นไม้อีกหลายสิบหลายร้อยชนิดที่มีคุณสมบัติสามารถช่วยฟอกอากาศและดูดสารพิษได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญยังนิยมปลูกไว้ในห้องนอนได้อีกด้วย อยากรู้แล้วใช่ไหมคะว่ามีต้นอะไรกันบ้าง วันนี้เรามีต้นไม้ 5 ชนิดซึ่งเป็นที่นิยมปลูกไว้ในห้องนอนเพื่อช่วยฟอกอากาศมาแนะนำค่ะ

1.ลิ้นมังกร มีลำต้นเป็นหัวหรือเหง้าอยู่ใต้ดิน ใบเติบโตโผล่พ้นดินมีลักษณะยาวแหลมคล้ายหอกแข็ง ตั้งตรงสูงประมาณ 1 เมตร ปลูกง่าย มีหลายชนิด เช่น ลิ้นมังกรสั้น ลิ้นมังกรยาว และลิ้นมังกรลาย ถึงแม้คุณสมบัติในการดูดสารพิษของลิ้นมังกรจะไม่มากนัก ไม่ชอบแดดจัด จึงสามารถตั้งไว้ภายในห้องนอนได้ เพราะไม่ต้องการการดูแลมากนัก รดน้ำเพียงสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง แถมยังช่วยฟอกอากาศให้สดชื่น ด้วยคุณสมบัติเด่นของลิ้นมังกรที่คายออกซิเจนออกมาเวลากลางคืนและดูดคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปแทน จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะปลูกไว้ในห้องนอน โดยเฉพาะหากใครเป็นภูมิแพ้ ต้นลิ้นมังกรนี้เหมาะมาก ๆ

2.พลูด่าง เป็นไม้เลื้อยที่มีรากงอกออกมาตามลำต้นตามข้อ ลักษณะใบคล้ายรูปหัวใจ ปลายใบแหลม สีเขียวและมีรอยด่างสีเหลืองผสมอยู่ในใบ คุณสมบัติพิเศษของพลูด่าง คือความสามารถดูดสารพิษในอากาศได้เป็นอย่างดี

3.มะลิ ต้นไม้ที่มากล้นคุณค่าที่ทุกคนรู้จักกันดี มะลิมีให้เลือกมากมายหลายพันธุ์ เพราะฉะนั้น เลือกพันธุ์ที่ต้นเล็ก ๆ ปลูกไว้ในกระถางใบย่อม ๆ วางไว้มุมห้องหรือใกล้หน้าต่างในบริเวณที่สามารถเปิดให้แสงแดดส่องถึง รับรองว่าดูแลไม่ยาก พอมะลิออกดอก กลิ่นหอมก็จะเป็นอะโรมาที่ช่วยผ่อนคลายยามอ่อนล้า และทำให้นอนหลับสบาย

4.เสน่ห์จันทร์แดง ไม้ประดับที่มีรูปทรงสวยงาม ลักษณะใบรูปหัวใจสีเขียวเข้มตัดกับก้านใบสีแดง นอกจากเป็นไม้มงคลด้านโชคลาภ เมตตามหานิยมแล้ว เสน่ห์จันทร์แดงยังขึ้นชื่อเรื่องการดูดจับสารพิษ โดยเฉพาะแอมโมเนีย เป็นต้นไม้ที่ชอบการดูแลเอาใจใส่รดน้ำและนำมาตั้งรับแสงแดดอ่อน ๆ เป็นประจำเท่านี้ก็เฮง ๆ แล้ว

5.ต้นยางอินเดีย ไม้ยืนต้น ลำต้นและใบมีลักษณะกลมมน ใบเดี่ยวสีเขียวเข้ม เรียกได้ว่าควบคุมความสูงได้ตามขนาดของกระถาง ชอบน้ำน้อย ต้องการแสงแดดอ่อน ๆ จุดเด่นคือ ลักษณะใบที่สวยงามด้วยสีเขียวเข้มมันเงา ด้วยคุณสมบัติในการช่วยฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ ต้นยางอินเดียจึงเป็นที่นิยมนำมาปลูกในห้องนอน เพื่อช่วยเรื่องการฟอกอากาศและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคภูมิแพ้ และโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ ช่วยให้นอนหลับได้ดี ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในระบบต่าง ๆ ให้แข็งแรงและเสริมสร้างพัฒนาการของระบบอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายได้ดียิ่งขึ้น

คำแนะนำเพิ่มเติมการเลือกอีกอย่างก็คือ การถูกใจ ถ้าคุณไปมอง ๆ ดูต้นไม้ตามรายการที่เราแนะนำข้างต้น หากชอบในสีสัน รูปลักษณ์ รูปทรงของต้นไหน มองแล้วสบายตาสบายใจก็เลือกต้นนั้นมาไว้ในห้องนอน ก็จะสร้างทั้งความสุขและได้คุณภาพอากาศที่ดีไปพร้อมกัน

มือใหม่ต้องรู้ ฮีโร่ ใน RoV มีกี่สาย และแต่ละสายสำคัญต่อเกมส์อย่างไร

ถ้าพูดถึงเกมส์ในมือถือที่คนไทยเล่นมากที่สุด มั่นใจว่าคนส่วนใหญ่ต้องนึกถึงเกมส์ ROV หรือ Realm of Valor จากค่าย Tencent เหตุผลเพราะตัวเกมส์มีการจัดระดับผู้เล่นอย่างชัดเจน โดยทุกคนต้องเริ่มจากการเป็นมือใหม่ ทำให้นักเล่นมือใหม่ไม่รู้สึกว่าเกมส์นี้เล่นยากเกินไป นอกจากนั้น RoV ยัง มีการจัดการแข่งขันทั้งในระดับลีกและกีฬาระหว่างประเทศ ด้วยเหตุนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เด็กไทยจะหันมาเล่น RoV และฝันอยากเป็นโปรเกมเมอร์มากขึ้น แต่ก่อนจะไปถึงขั้นนั้น มือใหม่ทุกคนควรรู้ว่า ฮีโร่ ใน RoV มีกี่สาย และแต่ละสายสำคัญต่อเกมส์อย่างไรนั้น วันนี้เรามีคำตอบมาฝาก

Archer หรือ Carry
สายแครี่ถือว่าเป็นตำแหน่งแรกที่มักจะถูกเลือกในเกมส์ 5V5 เพราะมีโอกาสได้เป็น MVP ค่อนข้างสูง เป็นได้ทั้งตัวทำเกมส์และฟาร์ม จุดเด่นอยู่ตรงความรุนแรงและความต่อเนื่องของการทำดาเมจในระหว่างการเข้าทีมไฟล์ ยิ่งทีมไหนเล่นดี ยืนตำแหน่งสวย รับรองแครี่ยืนยิงสบาย ฝ่ายตรงข้ามหายแบบยกทีมก็มีให้เห็นบ่อย แต่ถ้าเล่นสายนี้ต้องระวังเรื่องความบาง ต้องออกไอเทมให้ไว

Fighter
ฮีโร่สายไฟท์เตอร์เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่จะถูกเลือกเป็นอันดับต้น ๆ เช่นกัน เพราะฮีโร่กลุ่มนี้จะเป็นสายโจมตีแบบหวังผล ระดับความแข็งแกร่งปานกลาง จึงเอาตัวรอดได้เมื่ออยู่คนเดียว แยกดันป้อมก็ไม่มีปัญหา หรือจะทำหน้าที่เติมเกมส์ช่วยกลุ่มแทงค์ก็ได้ แต่จุดอ่อนคือ การโจมตีระยะใกล้ จึงต้องรอจังหวะให้ไอเทมเต็มก่อน อีกทั้งต้องมีสกิลการเล่นพอสมควร

Mage
ถือว่าขาดไม่ได้เหมือนกันสำหรับฮีโร่สายเมจ ด้วยถือว่าเป็นตัวทำเกมส์ในจังหวะไฟท์ของทีมเหมือนสายแครี่ แต่ต่างกันตรงที่เมจจะใช้พลังเวทที่รุนแรงและสามารถสร้างความเสียหายได้ในวงกว้าง ส่วนจุดอ่อนที่ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ชอบเล่นฮีโร่สายนี้คือ ความบางและขาดสกิลหนี ทำให้ตกเป็นเหยื่อของแอสซาซินฝ่ายตรงข้ามได้ง่ายกว่าตัวอื่น

Assassin
สำหรับคนที่ชอบเล่นตำแหน่งฟาร์มหรือ Jungle ฮีโร่สายแอสซาซินถือว่าเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ เพราะพลังโจมตีสูง ฟาร์มเร็ว แถมมีสกิลหนีอีกต่างหาก ถ้าเข้าทำดี ๆ ไม่ให้แครี่หรือเมจฝ่ายตรงข้ามตั้งตัว รับรองเลยว่าได้คิลทุกรอบที่เข้าทำเกมส์ แต่ข้อเสียของฮีโร่สายนี้ก็ไม่พ้นความบาง ถ้าเข้าไม่ถูกจังหวะหรือเล่นสายนี้ไม่เป็น เข้าไปก็ตายได้เหมือนกัน

Tank
ถ้าใครเป็นสายบู๊อยากได้ฮีโร่ถึกตายยาก ๆ แนะนำให้เลือกฮีโร่สายแทงค์เป็นหลัก โดยทำหน้าที่เป็นตัวเปิดเกมส์กับฝ่ายตรงข้าม ในขณะเดียวกันแทงค์ที่เก่งจะคอยทำหน้าที่ปกป้องแครี่และเมจไปด้วย ส่วนข้อเสียของสายแทงค์คือ เป็นฮีโร่ที่ไม่ได้คิล แถมต้องรับความเสียหายเยอะ ทำให้หลายคนไม่เลือกเล่นฮีโร่สายนี้

Support
ต้องยอมรับว่าสายซัพพอร์ตเป็นฮีโร่ที่ไม่ได้รับความนิยมมากนัก เนื่องจากสกิลเหมือนไม่สุด เพราะส่วนใหญ่ดาเมจต่ำ โจมตีไม่เร็ว แถมไม่ทนถึกเท่าถึงขั้นเข้าเปิดเกมส์ได้อย่างแทงค์ แต่ถึงอย่างนั้นซัพพอร์ทมักจะมาพร้อมสกิลที่ตัวอื่นไม่มี อย่างฮีลเลือด สร้างเกราะ สร้างโล่ ชุบชีวิต เพิ่มความเร็ว ช่วยทำให้เพื่อนร่วมทีมเล่นได้ราบรื่นขึ้น

เป็นอย่างไรบ้างสำหรับข้อมูลของฮีโร่สายต่าง ๆ ในเกมส์ RoV ที่เรานำมาฝากเหล่าเกมเมอร์มือใหม่ รับประกันคราวหน้าเลือกฮีโร่ไม่ผิดตัวผิดสายแน่นอน

วิธีหางานที่เหมาะสมกับตัวคุณมากที่สุด

การทำงานที่ตรงกับความถนัดและความชอบเป็นสิ่งที่ทำให้คุณมีแรงผลักดันเชิงบวกในการสร้างสรรค์ผลงานที่ดียิ่งขึ้น หากเป็นธุรกิจส่วนตัวก็จะทำให้คุณมีโอกาสประสบความสำเร็จได้สูง หรือหากเป็นสายงานอาชีพ พนักงานออฟฟิศ ก็จะทำให้คุณมีความสุขกับการทำงานทุกวันและมีการเติบโตก้าวหน้าที่ดียิ่งขึ้น

เรามาดูกันว่าจะมีวิธีใดที่ช่วยให้คุณวิเคราะห์ตัวเองง่ายขึ้น เพื่อให้พบงานที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด

1. สังเกตงานอดิเรกที่ชอบทำ
แต่ละคนจะมีอุปนิสัยที่ชื่นชอบงานอดิเรกแตกต่างกัน เช่น วาดรูป เล่นกีฬา เล่นเกมส์ ฟังเพลง ฯลฯ สิ่งเหล่านี้คือกระจกสะท้อนความเป็นตัวตนของคุณ ขอให้ลองจดบันทึกสิ่งที่มักทำบ่อย ๆ ยามว่าง จะช่วยให้เข้าใจอัตลักษณ์ของตัวเอง ว่าคุณเหมาะกับงานประเภทใดมากขึ้น แม้ในวันนี้ยังไม่อาจทำเป็นอาชีพ แต่จะเป็นพื้นฐานที่ดีที่ทำให้คุณเริ่มคิดต่อยอดได้ว่าจะสร้างให้เกิดเม็ดเงินเข้ากระเป๋าได้อย่างไร

2. การฝึกฝนทำซ้ำบ่อย ๆ
มีการกล่าวว่าโลกใบนี้มีคนเป็น 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ประสบความสำเร็จด้วยใช้โดยใช้พรสวรรค์ แต่อีก 90% มาจากการเพียรพยายามฝึกฝนและพัฒนาตัวเอง หากคุณรู้ว่าตัวเองมีความชื่นชอบในสิ่งใดให้ฝึกฝนบ่อย ๆ ตามการสาธิตใน YouTube หรือไปขอฝึกทดลองงานในสถานที่จริงต่าง ๆ คุณจะเห็นศักยภาพด้านหนึ่ง ๆ ของตัวเองที่ชัดเจนขึ้น การทำซ้ำบ่อย ๆ และไม่หยุดยั้งที่จะเรียนรู้ เป็นวิธีค้นพบตัวเองของศิลปินชื่อดังทั้งในและต่างประเทศมากมาย

3. ดูจากนิสัยการอ่านหนังสือ
หลายคนที่ชอบอ่านหนังสือ ให้ลองสังเกตว่าคุณนิยมซื้อหนังสือประเภทใดมากที่สุด แสดงถึงความสนใจและเชี่ยวชาญในด้านนั้นมากกว่าคนอื่น ๆ เช่น หนังสือเกี่ยวกับสุขภาพ แสดงว่าคุณเหมาะทำงานในสายสาธารณสุข หากคุณชอบอ่านหนังสือแนวเทคโนโลยีรถยนต์ ของใช้ไอที คุณอาจเหมาะกับการทำธุรกิจที่เกี่ยวกับของใช้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้คนก็เป็นได้ ดังนั้น ลองดูตู้หนังสือของคุณว่ามีหนังสือประเภทใดมากที่สุด เพราะสะท้อนถึงความชื่นชอบภายในใจของคุณนั่นเอง

4. ทำแบบทดสอบทางอินเทอร์เน็ต
หากคุณรู้สึกว่าตัวเองไม่มีงานอดิเรก ไม่มีสิ่งที่ชื่นชอบเป็นพิเศษ ให้ลองค้นจากอินเทอร์เน็ต พิมพ์หาแบบทดสอบอุปนิสัยซึ่งมีทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ ที่เป็นประโยชน์ต่อการวิเคราะห์ตัวเองตามหลักจิตวิทยา คุณจะพบว่าตัวเองเหมาะกับงานประเภทใดได้ง่ายยิ่งขึ้น

การหาตัวตนไม่สามารถมาจากการคิดเท่านั้น แต่ต้องมาจากการวิเคราะห์สังเกตตัวเอง รวมถึงสอบถามคนที่อยู่รอบตัวคุณก็ได้ว่าเขาเห็นความโดดเด่นของคุณในการแสดงออกด้านใดเพราะบ่งบอกได้ว่าคุณเหมาะสมกับงานประเภทใดได้ดีไม่แพ้ไปกว่าการวิเคราะห์ตัวเองเลย

ดูแลผิวสวยให้ห่างไกลสิว จัดการได้ด้วยตัวเอง

ผิวสวยเป็นที่ต้องการของทุกวัยโดยเฉพาะวัยรุ่นและวัยทำงาน หากหน้าใส ไม่มีสิวและแผลเป็นใด ๆ ก็จะยิ่งเสริมความมั่นใจในการเข้าสังคม ทั้งเป็นการสร้างโอกาสที่ดีในการทำงานหน้ากล้อง เช่น เป็นนักแสดง นักร้อง ยูทูปเบอร์ นักรีวิวสินค้ากลุ่มความงาม เป็นต้น มีวิธีการดูแลผิวสวยอย่างไร ให้ไร้ปัญหาสิว

1. เช็ดเครื่องสำอางออกให้เกลี้ยงก่อนล้างหน้า

ก่อนการล้างหน้า ต้องเช็ดเครื่องสำอางและครีมต่าง ๆ ออกให้หมด ด้วยคลีนเซอร์สูตรอ่อนโยนที่กำจัดส่วนประกอบกลุ่มน้ำมันและน้ำออกจากผิวได้มากที่สุด ถ้าใช้เครื่องสำอางสูตรกันน้ำ ควรใช้คลีนเซอร์สูตรพิเศษ เพื่อทำความสะอาดอย่างหมดจดยิ่งขึ้น

2. ล้างหน้าให้สะอาดก่อนนอน

ก่อนนอนต้องล้างหน้าให้สะอาดด้วยเจลหรือโฟมล้างหน้าที่เหมาะกับผิว ไม่ว่าคุณจะเล่นพนันจนเครียดหนักเพราะเสีย หรือทำภารกิจอื่นๆจนมีคราบเหงื่อตามใบหน้าก็ตาม วิธีสังเกตง่าย ๆ คือ หลังล้างหน้าแล้วต้องรู้สึกว่าผิวไม่แห้งตึง เพราะแสดงถึงการดึงน้ำออกจากผิว จนอาจเป็นสาเหตุเรื้อรังทำให้มีการสร้างไขมันขึ้นมาปกคลุมผิวหน้ามากเกินไป จนเป็นสิวอุดตันและอักเสบตามมาได้

3. ขจัดเซลล์ผิวเก่าและสิ่งอุดตันด้วยสครับ

ควรใช้สครับขัดผิวหน้าเป็นประจำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง สาเหตุที่หลายคนมีปัญหาสิวอุดตันหรือเป็นสิวอักเสบได้ง่าย เพราะว่ามีไขมันส่วนเกินและมีเซลล์ผิวหนัง สิ่งสกปรกที่เป็นอาหารของแบคทีเรีย P.acne จึงทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียน การใช้สครับขัดผิวจึงเป็นทางออกที่ช่วยทำให้ลดปัญหาเหล่านี้ได้ แต่บริเวณจุดที่เป็นสิวอักเสบหรือเป็นสิวหัวหนองอยู่ ต้องงดเว้น เพื่อไม่ให้มีการเสียดสี อันจะทำให้ยิ่งบวมแดงมากขึ้น

4. ทาครีมบำรุงหลังล้างหน้าภายใน 20 นาที

หลังล้างหน้า ควรรีบทาครีมบำรุงผิว เพื่อให้ดูดซึมได้เร็ว ลงไปฟื้นฟูสภาพผิวได้อย่างล้ำลึก โดยควรเริ่มจากน้ำตบ เซรั่ม เจล และครีม ตามลำดับ ทั้งนี้ ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ควรทดลองกับบริเวณท้องแขนว่าหลังจากทามีอาการคัน แสบ หรือมีผดผื่นขึ้นหรือไม่ หากมีก็หลีกเลี่ยงใช้ผลิตภัณฑ์นั้น และถ้ามีอาการแพ้มาก ให้รีบปรึกษาแพทย์

5. ทำความสะอาดอุปกรณ์แต่งหน้า

แนะนำให้ทำความสะอาดแปรงแต่งหน้า พัฟฟ์ ฟองน้ำ ฯลฯ เป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้งเพราะเป็นอุปกรณ์ที่มีการสัมผัสกับผิวหน้าโดยตรง เกิดการสะสมของคราบสกปรก ไขมัน รวมถึงแบคทีเรียหลายชนิดอันเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้ง่าย และควรมีอุปกรณ์แต่งหน้าหลายชุดเพื่อหมุนเวียนสับเปลี่ยน ไม่ควรใช้ปะปนกับผู้อื่น และควรตรวจสอบอายุของเครื่องสำอางเป็นประจำด้วย

การดูแลผิวให้ห่างไกลสิวนั้น ต้องใส่ใจรายละเอียดหลายด้านและต้องดูแลอย่างต่อเนื่อง จึงจะป้องกันปัญหาสิวได้อย่างครบวงจร หากดูแลตามที่กล่าวมาแล้ว ยังพบปัญหาสิวอุดตันและอักเสบ แนะนำให้ปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ผิวหนังเพื่อเลือกใช้ยารักษาที่เหมาะสมตามสาเหตุต่อไป

ออกแบบเว็บไซต์ด้วยตัวเอง หรือจ้างทำดีกว่ากัน ?

การมีเว็บไซต์เป็นหน้าร้านในการให้ข้อมูลสินค้าและรับออเดอร์จากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ เป็นสิ่งจำเป็นในยุคที่ผู้คนนิยมซื้อขายผ่านระบบอินเทอร์เน็ต 5G เว็บไซต์ใดที่ออกแบบให้สวยงาม มีภาพกราฟิกที่ดึงดูดใจ คลิกหาเลือกชมสินค้าที่ต้องการได้ง่าย ก็จะมีโอกาสประสบความสำเร็จได้สูง ทั้งด้านของการสร้างชื่อเสียงแบรนด์ให้ติดตลาดและมีออเดอร์สินค้าอย่างต่อเนื่องได้ตลอดปี สำหรับผู้ที่เริ่มทำธุรกิจออนไลน์มือใหม่ อาจต้องเลือกระหว่างการออกแบบเว็บไซต์ด้วยตัวเอง และการจ้างบริษัททำเว็บไซต์ ว่าแบบไหนจะดีกว่ากัน

การจ้างบริษัทออกแบบเว็บไซต์จะใช้เวลาน้อยกว่า เนื่องจากมีบริษัทจะทีมงานหลายคนที่มีความชำนาญในการวางแผน คิดและทำอย่างเป็นระบบชัดเจน แต่หากทำเว็บไซต์ด้วยตัวเองตั้งแต่ต้นโดยไม่มีประสบการณ์มาก่อน ก็ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้นาน 2-3 เดือนขึ้นไป และหากคุณทำงานประจำอยู่ด้วยก็จะยิ่งใช้เวลามากขึ้นไปอีก การทำเว็บไซต์ของตัวเองจะมีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่า มีแต่เฉพาะค่าเช่าพื้นที่และค่าโดเมนเท่านั้น ที่เป็นเงินหลักร้อยถึงพันบาท แต่ถ้าใช้บริการบริษัทออกแบบเว็บไซต์ ก็จะต้องเตรียมค่าใช้จ่ายไว้หลักพันถึงหลายหมื่นบาทในช่วงเริ่มต้น และอาจมีการคิดค่าจ้างรายเดือนหรือรายปีเพื่อการพัฒนาปรับปรุงเป็นระยะด้วย

ความสวยงามของเว็บไซต์

ถ้าคุณถนัดการทำธุรกิจ แต่ไม่ถนัดในการออกแบบสีสัน การทำกราฟิกคอมพิวเตอร์ และการดีไซน์รูปแบบที่ส่งเสริมความเป็นเอกลักษณ์ ฯลฯ ก็จะทำให้เว็บไซต์ขาดความสวยงาม ไม่ดึงดูดใจ แม้สินค้าจะดีแค่ไหนก็ตาม กรณีนี้ ควรเลือกใช้บริการออกแบบเว็บไซต์ของบริษัทมืออาชีพ ที่จะพิจารณานำจุดแข็งของธุรกิจคุณ มาสร้างความโดดเด่นและดีไซน์หลายแบบให้คุณเลือกที่ชื่นชอบมากที่สุดได้ นอกจากนี้ เจ้าของกิจการจะมีความเข้าใจในธุรกิจของตัวเองมากที่สุด ทั้งที่มาของธุรกิจ กระบวนการผลิตสินค้า แนวทางในอนาคต ฯลฯ หากทำเว็บไซต์ด้วยตัวเองก็จะตีโจทย์ได้ชัดเจนที่สุด ส่วนการจ้างบริษัททำ ก็อาจได้ผลงานที่ดีเช่นกัน เพียงแต่ต้องชี้แจงรายละเอียดให้ชัดเจน ให้บริษัทเข้าใจธุรกิจของคุณให้มากที่สุด

สำหรับ คนที่ชอบความเป็นอิสระ สามารถปรับเปลี่ยนเว็บไซต์ได้ด้วยตัวเองตลอดเวลา โดยไม่ต้องปรึกษาใคร แต่ถ้าจ้างทีมออกแบบเว็บไซต์ ก็ต้องมีการสื่อสารกับทีมงาน เพื่อวิเคราะห์ ปรับปรุง แก้ไข พัฒนาเว็บไซต์อยู่เรื่อย ๆ การจ้างงานหรือการทำเว็บไซต์เอง ต่างก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่คุณต้องพิจารณาว่าแบบใดที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ ทั้งนี้ คุณอาจจะดูรีวิวความประทับใจของลูกค้าที่เคยจ้างงาน ก็จะทำให้ตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น

ขั้นตอนการสร้างตัวละคร Dragon Raja เกมส์มือถือระดับโลก

Dragon Raja เป็นเกมส์ที่เข้าประเทศไทยและเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2563 ที่สำคัญรองรับเป็นภาษาไทยเต็มรูปแบบ แต่ถ้าจะโหลดเข้าในมือถือจะต้องมีพื้นที่อย่างน้อย 6 GB เริ่มต้นด้วยการเข้าที่ Play Store จากนั้นให้พิมพ์คำว่า Dragon Raja แล้วคลิกที่ติดตั้ง แต่ก่อนจะเล่นเกมส์นี้ เรามาทำความรู้จักขั้นตอนการสร้างตัวละครกัน ดังต่อไปนี้

ตัวละคร 4 สายอาชีพ

  1. Blade Master หรือชื่อว่า มุราซามะ เป็นแนวหน้าเน้นในการโจมตีศัตรูในระยะประชิด มีความสามารถที่เน้นความเคลื่อนไหวสุดว่องไว มีความถึกทนทานและมีพลังป้องกันชีวิตมากกว่าใน 4 อาชีพเพราะเป็นนักรบที่ใช้อาวุธที่เป็นดาบสั้นและยาวอย่างชำนาญ
  2. Gunslinger หรือมือปืนฟอลคอน มีจุดเด่นในด้านความแม่นยำอย่างสูงเกี่ยวกับการใช้อาวุธและรักษาระยะห่างระหว่างศัตรูในการโจมตีได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือว่าเป็นข้อได้เปรียบ นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งสำคัญมากในการวางกับดักและการหายตัวในการเอาตัวรอด
  3. Soul Dancer ทำหน้าที่หลัก คือ เป็นสายซัพพอร์ตเพื่อน ๆ ในทีม แต่จะไม่เน้นต่อสู้มากนักเมื่อมีการเปรียบเทียบกับคนอื่น ส่วนในด้านเอฟเฟกต์จะมีพลังที่เท่ และที่สำคัญคนในทีมจะขาดตัวละครนี้ไม่ได้เลย
  4. Assassin เป็นอาชีพที่เหมือนกับฟอลคอนและมุราซามะมารวมกัน โดยที่ Assassin ใช้อาวุธที่เรียกว่า Special Exoskeleton ในการโจมตีทั้งในระยะใกล้และไกลสลับกัน และยังใช้พลังที่รุนแรงได้โดยไม่จำเป็นต้องใกล้ชิดกับศัตรูมาก นอกจากนี้ยังสามารถเอาตัวรอดได้ดีเยี่ยม

วิธีสร้างตัวละครใหม่ ดราก้อน ราจา

การเลือกเพศ พร้อมการปรับแต่งตัวละครในเกมส์

เมื่อมีการเลือกสายอาชีพจากขั้นตอนที่ 1 แล้ว คุณยังสามารถเลือกเพศตามที่ต้องการได้เลย ซึ่งมีทั้งหมด 3 เพศ ไม่ว่าจะเป็น ผู้หญิง ผู้ชาย หรือแม้กระทั่งแบบโลลิ นอกจากนี้สำหรับใครที่อยากสร้างตัวละครในเกมส์ ก็สามารถปรับแต่งด้วยตัวเองได้อย่างอิสระ เนื่องจากในเกมส์มีการพรีเซนต์ให้ดูสวยหล่อทุกตัว ตั้งแต่คิ้ว ตา รูปหน้า ทรงผม ความยาวของขา ความหนาของกระดูก

Dragon Raja เป็นเกมส์ที่มีจุดเด่นหลายอย่างที่นอกเหนือจากตัวละครในเกมส์ ไม่ว่าจะเป็นภาพกราฟิกที่มีความละเอียดสวยงามอย่างชัดเจน และยังให้ความเพลิดเพลินในการสำรวจโลกที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกแห่งความจริง โดยเฉพาะสภาพอากาศแสงแดดหรือหยาดฝน กลางวันและกลางคืน เนื่องจากกราฟิกได้มีการพัฒนามากขึ้นโดยมีการใช้ อัลเรียล เอนจิน 4 ชั้นนำ จึงคาดการณ์ได้ว่า Dragon Raja ที่มีความแตกต่างที่ไม่เหมือนใครนี้ น่าจะได้รับความนิยมในหมู่นักเล่นเกมส์แน่นอน

« Older posts Newer posts »

© 2024 KorSan

Theme by Anders NorenUp ↑