บล็อก เรื่องเล่า ตำนานเล่าขาน กีฬา และประวัติศาสตร์

Tag: ลดความอ้วน

อยากลดความอ้วนแต่ขาดหวานไม่ได้ เรามีทางเลือกให้คุณ

รสหวานคือสิ่งที่ทำให้เราสดชื่น ยิ่งเป็นเครื่องดื่มเย็น ๆ ด้วยแล้วล่ะก็ใคร ๆ ก็ต่างขาดมันไม่ได้ โดยเฉพาะคนที่ติดหวานอยากลดน้ำหนัก การได้จิบสักนิดก็ชื่นใจแล้ว แต่ก็มีความกังวลว่าหากดื่มมากไปจะทำให้อ้วนหรือไม่ ซึ่งหากทานในปริมาณมาก แม้ว่าจะเป็นความหวานธรรมชาติก็ส่งผลกระทบทำให้น้ำหนักขึ้นได้ แต่ก็ใช่ว่าจะทานไม่ได้ เราไปดูกันว่าความหวานจากอะไรที่ทานได้แบบไม่อ้วน 

1.น้ำผึ้ง ควรเป็นนำผึ้งที่ไม่มีสารเจือปนใด ๆ จึงจะดีต่อร่างกาย เพราะในน้ำผึ้งจะมีวิตามินและเกลือแร่ ส่งผลให้น้ำตาลในเลือดคงที่และย่อยสลายง่าย ในเรื่องของปริมาณให้จำไว้เลยว่าไม่เกิน 1 ช้อนชาให้พลังงาน 45 แคลอรี แต่หากใส่มากกว่านั้น 5-6 ช้อนจะให้พลังงานเทียบเท่าข้าวหนึ่งมื้อเลยล่ะ

2.อินทผลัม เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์มากและในเรื่องความหวานมีน้ำตาลในตัวอยู่แล้ว สามารถทานได้แม้ว่าจะลดน้ำหนักอยู่ก็ตาม เพราะเต็มไปด้วยไฟเบอร์ วิตามินและเกลือแร่ 

3.น้ำหวานจากเกสรดอกไม้ มีความหวานสูงมากได้จากธรรมชาติได้จากต้นว่านหางจระเข้ แต่ว่าจะไม่สามารถทานได้ เพราะความหวานสูงนี่แหละที่ทำให้ใส่ในปริมาณน้อยก็ได้รสชาติหวานนั้นเอง

4.กล้วย เป็นอีกหนึ่งความหวานที่ได้จากธรรมชาติ ใช้โดยการบดใส่ในขนมหรือทำสมูทตี้ก็ได้ ให้พลังงาน อิ่มท้องและมีธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส โปรตีน

7.เมเปิ้ลไซรัป เป็นความหวานที่พิเศษได้ฉายาว่า ” น้ำทองคำ ” ของชาวแคนาดา เพราะได้จากธรรมชาติ ( ออร์แกนิก ) 100% มีความหวานสูงมากกว่าน้ำตาลอ้อยหลายเท่า แคลอรีน้อยกว่า 

8.หญ้าหวาน เป็นตัวให้ความหวานจากธรรมชาติเช่นกัน ซึ่งจะมีลักษณะเป็นผงแป้งสกัดมาจากหญ้าหวาน พืชแถบอเมริกาใต้ ใช้แทนน้ำตาลได้ 100% ให้พลังงาน 0 แคลอรี ถือว่าเป็นสารให้ความหวานที่น่าสนใจทีเดียว

เลือกสารให้ความหวานอย่างไรให้ตอบโจทย์

สในส่วนนี้จะต้องดูข้างฉลากเพราะจะมีการแจ้งรายละเอียดไว้อย่างชัดเจนและต้องอ่าน ทำความเข้าใจเพราะในบางแบรนด์ชื่อสินค้าเพียงอย่างเดียว ก็ไม่ได้เป็นตัวการันตีสินค้าเหล่านั้นเป็นไปตามชื่อแบรนด์ เช่น ชื่อสินค้า “น้ำตาลหญ้าหวาน สารสกัดจากหญ้าหวานธรรมชาติ 100%” หากอ่านผ่าน ๆ อาจเข้าใจได้ว่าน้ำตาลนี้ทำมาจากหญ้าหวาน 100% ซึ่งควรจะเป็นสินค้าใช้เป็นหญ้าหวานจากธรรมชาติ 100%

อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นตัวทำความหวานจากธรรมชาติหรือแคลอรีน้อย ควรทานในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าผลเสีย น้ำหนักไม่เพิ่มตามมาในภายหลัง

แนะ 3 เทคนิค ลดน้ำหนักแบบไม่ต้องอดอาหาร

แน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากที่จะอ้วน เพราะนอกจากจะทำให้หาเสื้อผ้าใส่ยากและมีความอึดอัดทางร่างกายแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพอีกด้วย แต่ทว่าปัจจัยแวดล้อมของแต่ละคนที่ส่งผลต่อน้ำหนักและไขมันที่เพิ่มขึ้น เช่น ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันไป เช่น ระบบเผาผลาญก็ทำงานได้ไม่เท่ากัน อีกทั้งส่วนสูงและรูปร่างก็ยังไม่เท่ากัน แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนคิดเหมือนกันนั่นคือ ทำอย่างไง​ก็ได้ให้สามารถลดน้ำหนักลงได้โดยไม่ต้องอดอาหาร เราจึงมี 3 เทคนิคในการลดน้ำหนักโดยไม่ต้องอดอาหารมาแนะนำกัน

เทคนิคที่ 1 ได้แก่ การเพิ่มปริมาณผักและผลไม้ในแต่ละมื้ออาหารให้มากขึ้น ทั้งนี้เพราะเส้นใยหรือไฟเบอร์ในผักและผลไม้จะช่วยกระตุ้นให้ขับถ่ายสะดวก ลดการดูดซึมของน้ำตาล ลดไขมันสะสม ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ทานได้ในปริมาณมากแต่ก็ไม่ทำให้อ้วน

เทคนิคที่ 2 หลีกเลี่ยงการกินอาหารจำพวกของทอดทั้งหลาย พึงระลึกเสมอว่าอาหารทอดต่าง ๆ ที่เรากินเข้าไปนั้นมีปริมาณน้ำมันแฝงอยู่ ยิ่งกินเยอะเท่าไรก็เหมือนกับการเทน้ำมันทอดอาหารลงในกระเพาะอาหารของเรานั่นเอง โดยน้ำมันเหล่านี้คือ ตัวการเพิ่มชั้นไขมันและน้ำหนักให้เกินพิดกัดอย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้นหากเปลี่ยนจากเมนูทอดมาเป็น ย่าง หรือต้ม ก็จะช่วยลดน้ำหนักลงได้อย่างน่าพอใจ หากยังเลิกทานของทอดไม่ได้​ ให้ลดปริมาณลง​ หรือใช้แผ่นซับน้ำมันเท่าที่ซับได้

เทคนิคที่ 3 การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ซึ่งแต่ละคนมีความต้องการปริมาณน้ำที่ไม่เท่ากัน โดยทั่วไปให้ดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว​ น้ำเป็นสิ่งจำเป็นต่อชีวิตของคุณ น้ำช่วยให้ระบบการไหลเวียนโลหิตและการดูดซึมสารอาหารทำได้ดีมากขึ้น ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกิน และยังส่งผลดีต่อระบบการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย นอกจากนี้การดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนการรับประทานอาหารในแต่ละมื้อ จะช่วยให้คุณอิ่มเร็วขึ้นด้วย
รู้ข้อดีจากเทคนิคการลดน้ำหนักทั้ง 3 วิธีแล้ว ก็อย่าลืมนำไปปฏิบัติให้เกิดผลดีต่อตัวคุณเองนะคะ และสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักคือ การนอนหลับให้เพียงพอในแต่ละวัน เพราะการที่ร่างกายได้นอนหลับสนิทในช่วงเวลาประมาณ 23.00 น.จนถึงเวลาประมาณ 03.00 น. ร่างกายจะหลั่ง Growth Hormone เพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของเซลล์และอวัยวะต่าง ๆ พร้อมทั้งเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย ทั้งยังช่วยให้ร่างกายกำจัดไขมันส่วนเกินออกไป​ ทำให้ร่างกายทำงานเป็นปกติ​ สามารถพัฒนาเซลล์ที่แข็งแรงเพื่อต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ได้

© 2024 KorSan

Theme by Anders NorenUp ↑