ถั่วฝักยาวเป็นหนึ่งในพืชตระกูลถั่วที่คนไทยนิยมรับประทาน ปลูกง่ายได้ผลผลิตเร็ว นิยมปลูกเป็นผักสวนครัวประจำบ้าน และปลูกเป็นอาชีพสำคัญชนิดหนึ่งของเกษตรกรไทย สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายชนิดทั้ง ต้ม ยำ ผัด แกง ทอด เป็นเครื่องเคียงลดความจัดจ้านของอาหารให้กลมกล่อมขึ้น สามารถรับประทานได้ทั้งดิบและสุก

ถั่วฝักยาวมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ได้แก่ วิตามินซี วิตามินเอและบี1 แคลเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม และโปรตีน นำมาซึ่ง 10 ประโยชน์ของถั่วฝักยาวได้แก่

1. วิตามินซี ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ไม่เป็นหวัดง่าย

2. ช่วยป้องกัน และรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน

3. ช่วยบำรุงผิวพรรณ ด้วยมีวิตามินซีสูงจึงช่วยดูแลผิว ลดริ้วรอย ลดรอยแดง ยืดอายุผิว และสร้างความชุ่มชื้นให้กับผิว ดีต่อระบบหลอดเลือด และเส้นเอ็น ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันป้องกันมะเร็งผิวหนังได้ด้วย

4. ช่วยบำรุงสายตา ด้วยคุณสมบัติของวิตามินเอ และวิตามินบี 1 ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันภาวะประสาทตาเสื่อม ป้องกันโรคเกี่ยวกับดวงตา เช่น โรคต้อกระจก ต้อหิน และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็น

5. ช่วยให้หลับสนิท เนื่องจากมีแมกนีเซียมสูง ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่ช่วยคลายความเครียด เพิ่มความผ่อนคลาย ลดความเครียด วิตกกังวล อันเป็นสาเหตุของการนอนไม่หลับ

6. แคลเซียม ช่วยบำรุงกระดูก ทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน

7. ฟอสฟอรัส ช่วยเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน ช่วยลดไขมันส่วนเกิน เป็นตัวช่วยลดความอ้วนได้อีกด้วย

8. ดีต่อระบบขับถ่าย ช่วยลดคอเลสเตอรอล เนื่องจากอุดมไปด้วยกากใย ซึ่งมีกากใยชนิดที่ไม่ละลายน้ำซึ่งจะช่วยทำให้อิ่มเร็ว (ลดการรับประทานอาหารในปริมาณมาก) และช่วยให้ขับถ่ายได้ดี และชนิดละลายน้ำซึ่งจะทำปฏิกิริยากับกรดในกระเพาะสร้างสารประเภทเจลลาตินไปเคลือบกระเพาะอาหารช่วยลดคอเลสเตอรอล

9. คาร์โบไฮเดรต และน้ำตาลต่อสุขภาพ พร้อมปริมาณ ๆไฟเบอร์จำนวนมาก ช่วยให้น้ำตาลย่อยช้าลง จึงควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี และช่วยป้องกันโรคเบาหวานได้

10. ชะลอความชรา ในถั่วฝักยาวสีม่วงยังมีปริมาณสารแอนโธไซยานินสูงกว่าถั่วฝักยาวทั่วไป ซึ่งมีประสิทธิภาพในการต่อต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินซี และอีถึง 2 เท่า ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ดูอ่อนกว่าวัย

อย่างไรก็ตามแม้ถั่วฝักยาวจะมีประโยชน์มากมายดังกล่าวข้างต้นแต่แนะนำให้รับประทานในแบบต้มสุกจะปลอดภัยกว่า เนื่องจากในถั่วฝักยาวดิบมีแก๊สค่อนข้างมากอาจทำให้ท้องอืด นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในการแพ้อาหาร ท้องเสีย หรือมีอาการวิงเวียนศีรษะได้เพราะมี “ไกลโคโปรตีน และเลคติน” อยู่มาก ในผู้สูงวัยควรต้มให้สุกเพื่อให้เคี้ยวบดละเอียดง่ายต่อการย่อยป้องกันปัญหาการอุดตันในลำไส้ และที่สำคัญควรล้างให้สะอาดก่อนต้มทุกครั้งเพื่อป้องกันการตกค้างของยาฆ่าแมลง