อาการเลือดกำเดาไหล คงเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป และส่วนใหญ่คงไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องร้ายแรง แต่ถ้าลองศึกษาให้เข้าใจและรู้เท่าทันจะพบว่าอาการ “เลือดกำเดาไหล” มีอันตรายซ่อนอยู่ อาการนี้คืออะไร มีสาเหตุมาจากอะไร และสามารถส่งสัญญาณอะไรได้บ้าง ไปทำความรู้จักกัน
“เลือดกำเดาไหล (Epistaxis)” เป็นอาการเลือดออกทางจมูก โดยมาจาก 2 ส่วน คือ โพรงจมูกด้านหน้า และด้านหลังโพรงจมูกซึ่งมักจะพบอาการรุนแรงถึงขั้นอันตรายมากกว่า อาการเลือดกำเดาไหลมีสาเหตุมาจากอะไร และส่งสัญญาณอันตรายอะไรได้บ้าง

1.โพรงจมูกได้รับการรบกวน
ในโพรงจมูกมีเส้นเลือดฝอยอยู่ซึ่งปกติจะไม่แตกหรือฉีกขาดง่าย ๆ แต่หากมีการแคะจมูกด้วยเล็บแหลมคม,ได้รับแรงกระแทกบริเวณจมูก เช่น หกล้ม โดนชก กระแทกของแข็งแรงๆ ก็สามารถทำให้เส้นเลือดฝอยแตก ฉีกขาดได้ อาการนี้เลือดจะไหลไม่มาก และไหลไม่นาน ประคบหรือนอนราบสักพักก็จะหายไป

2.ความผิดปกติของร่างกาย
หมายถึงการเป็นโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น โรคที่เกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด, ความดันโลหิตสูง, โรคตับ หรือในผู้ป่วยที่ต้องรับประทานยาละลายลิ่มเลือด นอกจากนี้การขาดวิตามินเค ซึ่งเป็นตัวช่วยให้เลือดแข็งตัว หยุดไหลได้เร็ว ก็ส่งผลให้เลือดกำเดาไหลได้ด้วยเช่นกัน มักพบในผู้ที่ทานยาปฏิชีวนะที่ไปทำลายแบคทีเรียในลำไส้ทำให้การสร้างวิตามินเคลดลง การทานยาลดระดับคอเลสเตอรอลนาน ๆ ทานยาสเตียรอยด์เป็นประจำ ในบางรายก็เกิดจากความดันอาการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เช่น ขณะโดยสารเครื่องบิน

3.โพรงจมูกอักเสบ
มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัส เป็นภูมิแพ้ที่อาจทำให้เกิดอาการจามรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ไซนัสอักเสบ ใช้เครื่องอัดอากาศขณะหลับ รวมถึงสภาพอากาศที่แห้งจัด ชื้น ร้อนจัดก็ส่งผลกระตุ้นอาการภูมิแพ้จนทำให้โพรงจมูกอักเสบได้ด้วยเช่นกัน จะมีอาการคัด แน่นจมูกข้างเดียวหรือสองข้าง อาจมีหูอื้อ ปวดหัวเป็นไข้ร่วมด้วย จะมีเลือดไหลปนออกมากับน้ำมูก

4.เป็นโรคอันตราย
มักจะเกิดในส่วนหลังของโพรงจมูกซึ่งเป็นบริเวณที่มีสารพิษ ฝุ่นควันตกค้างได้ง่าย ได้แก่ วัณโรคในโพรงจมูก, เนื้องอกในโพรงจมูก โรคนี้จัดเป็นโรคร้ายแรงสำหรับเด็กที่มักพบในเด็กชายช่วงอายุประมาณ 7-19 ปี, มะเร็งโพรงจมูก มีอาการคล้ายไข้หวัดจึงอาจเข้าใจผิดว่าเป็นหวัดและปล่อยให้เรื้อรังจนถึงขั้นรุนแรง

5.ความผิดปกติทางกายวิภาคในโพรงจมูก
ตัวอย่างเช่น ผนังกั้นช่องจมูกคด, กระดูกงอกผิดที่ รวมถึงมีรูทะลุทำให้อากาศไม่สมดุล ซึ่งเลือดกำเดาจะไหลซ้ำ ๆ ข้างเดียวในตำแหน่งที่กระดูกผิดปกติ

หากมีอาการเลือดกำเดาไหลจากจมูกข้างเดียวบ่อย ๆ มีปริมาณมาก เป็นลิ่มเลือด หรือมีอาการไหลต่อเนื่องนานเป็น 10 นาที อาจมีอาการคัดจมูก หูอื้อ เหมือนจะเป็นหวัดแต่ไม่หายสักทีแถมมีเลือดปนออกมากับน้ำมูก หรือรู้สึกว่ามีก้อนในคอหรือโพรงจมูก หากพบอาการเหล่านี้ให้รีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอย่างละเอียดต่อไป