ภูมิแพ้เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้ทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงผู้สูงอายุ อาการ ได้แก่ มีน้ำมูกสีใส คันจมูก จามบ่อย มีผื่นแพ้คันที่ผิวหนัง หากรุนแรงอาจหอบหืด ช็อกและเสียชีวิตได้ เรามาดูกันว่า จะป้องกันตัวเองและคนรอบข้างให้ห่างไกลจากโรคภูมิแพ้ได้อย่างไรบ้าง

ลดการบริโภคผลิตภัณฑ์จากเนื้อแดง

มีการศึกษาพบว่าคนที่ดื่มนมวัวและรับประทานผลิตภัณฑ์จากเนื้อแดง มีแนวโน้มเป็นโรคภูมิแพ้มากกว่าคนทั่วไปถึง 3 เท่า โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์หากมีการบริโภคนมวัวมาก ก็จะทำให้ลูกเป็นภูมิแพ้ตั้งแต่แรกเกิดได้

รับประทานวิตามิน อาหารเสริม

การรับประทานน้ำมันปลาสกัดหรือ Fish Oil นอกจากจะช่วยเรื่องการไหลเวียนของเลือดแล้ว ยังสามารถช่วยลดปัญหาภูมิแพ้ได้ โดยการรับประทานขนาด 1,000 มิลลิกรัม วันละ 1 เม็ด เป็นประจำ ทั้งนี้ควรเลือกยี่ห้อที่มีการทดสอบสารปนเปื้อนโลหะหนักด้วย เพราะอาจจะสะสมในร่างกายหากรับประทานเป็นประจำได้

ทำความสะอาดห้องนอน

ในห้องนอนมักมีไรฝุ่นและเชื้อโรคที่สะสม เนื่องจากขาดการทำความสะอาดที่ดีพอ การนำที่นอนไปตากแดดแรงจัดเป็นประจำจะช่วยให้ไร้ฝุ่นถูกกำจัดได้ดีขึ้น หากไม่สามารถทำด้วยตัวเอง แนะนำให้ใช้บริการของบริษัทเอกชนที่มีเครื่องกำจัดไรฝุ่นที่มีอุปกรณ์อย่างครบถ้วน

งดการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในบ้าน

สัตว์เลี้ยงจำพวกสุนัขและแมวจะผลัดขน และมีเศษรังแค สะเก็ดผิวหนังที่หลุดร่วงปลิวตามอากาศได้ ทำให้เด็กและผู้สูงอายุเกิดอาการภูมิแพ้ได้ง่าย หากมีสัตว์เลี้ยงควรเลี้ยงในที่จำกัดอย่างเหมาะสม และไม่ควรให้อยู่ในบ้าน

มีชั้นวางรองเท้าอยู่หน้าบ้าน

หลายคนจะถอดรองเท้าอยู่ในห้องหรือคอนโดมิเนียม ซึ่งฝุ่นจะฟุ้งกระจายได้ ควรซื้อตู้เก็บรองเท้าไว้ให้มิดชิด หรือหากมีพื้นที่หน้าบ้าน ก็ควรมีพรมเช็ดเท้าและวางตู้ใส่รองเท้าไว้ด้านนอก

ออกกำลังกายเป็นประจำวัน

หากว่ายน้ำ วิ่ง หรือปั่นจักรยานเป็นประจำทุกวัน ครั้งละ 30-45 นาที ต่อเนื่อง 1-2 เดือน จะสังเกตได้ว่าอาการโรคภูมิแพ้ลดลง รวมถึงจะไม่เป็นหวัดด้วย เพราะระบบเม็ดเลือดขาวทำงานต่อสู้กับเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้น

ล้างแอร์เป็นประจำ

คนที่มีอาการภูมิแพ้จากการนอนในห้องแอร์ ควรตรวจสอบว่ามีการล้างแอร์เป็นประจำทุก 3-6 เดือนหรือไม่ ความอับชื้นและคราบน้ำที่ตกค้างในเครื่องจะทำให้มีเชื้อราตามมา ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นภูมิแพ้เรื้อรังได้

เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกท่านได้ควบคุมปัจจัยที่กระตุ้นอาการภูมิแพ้ได้ดียิ่งขึ้น หากทำตามที่แนะนำแล้วอาการไม่ดีขึ้น แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจหาสาเหตุที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ต่อไป

ภูมิแพ้เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้ทุกเพศทุกวัย