การตลาดออนไลน์มีอยู่หลายเทคนิคที่สามารถช่วยให้คุณประสบความสำเร็จได้ไว ขายสินค้าได้มากขึ้น และมีลูกค้าประจำรวมถึงลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั้ง SEO และ SEM ต่างเป็นเทคนิคที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดแนะนำให้ผู้สนใจขายของออนไลน์ทำทั้งสองวิธี เนื่องจากแต่ละวิธีมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน จึงควรทราบก่อนการเลือกทำ

SEO ย่อมาจากคำว่า search engine optimization เป็นกระบวนการพัฒนาเว็บไซต์ใน 2 ส่วน คือ ด้าน on-page SEO เช่น การทำโครงสร้างของเว็บไซต์ให้สวยงาม ใช้งานได้ง่าย แยกสินค้าเป็นหมวดหมู่ มีการทำฟอนต์และสีประจำเว็บไซต์ที่โดดเด่นจากที่อื่น การทำบทความที่มี keyword ตรงกับการสืบค้นของลูกค้าเป้าหมาย คุณภาพงานเขียนบทความที่สดใหม่ไม่ซ้ำใคร และต้องใช้ภาษาที่สื่อสารถึงกลุ่มผู้อ่านได้อย่างสนุกสนาน

นอกจากนี้ ยังมีส่วนของการทำ off-page SEO คือ การทำลิงก์เชื่อมโยงกับเว็บไซต์หรือเพจในแพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Facebook หรือ Instagram เพื่อเพิ่มค่า Traffic ให้เว็บไซต์ และจะทำให้ได้ลูกค้ามาจาก หลาย ๆ แห่ง เป็นช่องทางการขยายฐานลูกค้าและทำให้เกิดการบอกต่อได้อย่างยั่งยืนยิ่งขึ้น การทำ SEO จะต้องใช้ระยะเวลาในการสะสมข้อมูล ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าต้องทำ SEO อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ระบบ algorithm ของ Google มาเก็บข้อมูลนำไปเปรียบเทียบผลกับเว็บไซต์อื่น ๆ ที่ใช้ keyword ในการสืบค้นเดียวกัน โดยเฉลี่ยใช้ระยะเวลาการเห็นผล SEO จึงอยู่ที่ 2-3 เดือนขึ้นไป ซึ่งสามารถดูได้จากการพิมพ์ในช่อง search ของ Google จะเห็นอันดับที่อยู่ด้านบนขึ้นเรื่อย ๆ

SEM ย่อมาจาก search engine marketing เป็นการทำการตลาดที่เห็นผลอย่างรวดเร็วทันที เนื่องจากเป็นการเช่าพื้นที่โฆษณาสินค้า ซึ่งมักจะแสดงอยู่ทางด้านขวามือของจอคอมพิวเตอร์ หรือด้านบนสุดของมือถือผู้ใช้งาน ทั้งนี้ Google จะมีการคิดค่าใช้จ่ายจากเจ้าของเว็บไซต์เป็น 2 ส่วน คือ การประมูลพื้นที่ที่ต้องแข่งกับเว็บไซต์อื่น ๆ ที่ใช้ keyword เดียวกัน และเมื่อได้พื้นที่แล้ว ก็ต้องทำการชำระตามจำนวนครั้งของการคลิกที่มีผู้สนใจเข้ามาชมข้อมูลตามลิงก์ที่แนบไว้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจสินค้าเสนอขาย หรือเว็บไซต์เนื้อหา โปรแกรมบอลเมื่อคืน บ้านบอล ก็สามารถทำ SEM ได้ทั้งหมด เรียกว่าเป็นค่าโฆษณาแบบ Pay per click

การทำ SEM จึงหวังผลได้สูง ว่าจะมียอดขายที่ดีขึ้นในเวลาไม่กี่วัน เหมาะกับร้านค้าที่ต้องการกระตุ้นยอดขายแบบเร่งด่วน เน้นการโปรโมทสินค้าใหม่ หรือตรงกับช่วงเทศกาลที่มีผู้นิยมมองหาของขวัญหรือใกล้วันที่เงินเดือนออก เป็นต้น การทำ SEO และ SEM มีข้อดีและข้อเสียที่ต่างกัน แต่สามารถนำมาผสมผสานทำร่วมกันได้ในเว็บไซต์เดียว เพียงแต่ต้องเข้าใจหลักการและคาดหวังผลให้ถูกต้อง เลือกจังหวะวางแผนการตลาดให้ดี จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่ากับการทำ